Pages

Tuesday, September 22, 2020

โอกาสนักการเมืองหญิง ภายใต้การนำของนายซูกะ - ไทยรัฐ

milanokabar.blogspot.com
  • ถึงแม้ นายซูกะ จะสานต่อนโยบาย นายอาเบะ แต่เรื่องของการสนับสนุนผู้หญิงที่นายอาเบะทำมาตลอดก็ยังไม่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงเท่าที่ควร โดยเฉพาะผู้หญิงในแวดวงการเมือง ที่ยังคงเป็นเรื่องยากและห่างไกลที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
  • การขับเคลื่อนนโยบายผลักดันผู้หญิงทำได้ยากลำบาก เพราะรากฐานวัฒนธรรมสังคมญี่ปุ่นยังคงมองว่าผู้หญิงควรอยู่ในฐานะแม่บ้าน มากกว่าจะออกมาทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
  • แม้ นายอาเบะ จะสามารถผลักดันให้มีการจ้างงานผู้หญิงมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นงานพาร์ทไทม์ ในขณะที่จำนวนผู้หญิงในตำแหน่งผู้บริหารไม่เพิ่มเท่าที่ควร

หลังจากที่ นายโยชิฮิเดะ ซูกะ เข้ารับตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ หลายฝ่ายต่างจับตาการเดินหน้านโยบายด้านต่างๆ ซึ่งคาดหมายว่า นายซูกะ จะสานต่อนโยบายทุกอย่างของ นายชินโสะ อาเบะ ตามที่รับปากไว้ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ นโยบาย "Womenomics" นโยบายเกี่ยวกับผู้หญิงหลากหลายมิติ ทั้งเรื่องการผลักดันผู้หญิงเข้าตลาดแรงงาน และหาสถานรับเลี้ยงเด็กอ่อนรองรับแม่ๆ วัยทำงาน การกระตุ้นให้ภาครัฐและเอกชนสร้างความหลากหลายทางเพศในสถานที่ทำงาน และเพิ่มสัดส่วนผู้หญิงในตำแหน่งผู้บริหาร

นายโยชิฮิเดะ ซูกะ ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี
นายโยชิฮิเดะ ซูกะ ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม การผลักดันเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากวัฒนธรรมที่ให้อำนาจแก่ผู้ชายเป็นใหญ่ ยังคงฝังรากลึกในญี่ปุ่น ทำให้การผลักดันและให้ความสำคัญกับผู้หญิงในตำแหน่งผู้บริหารเป็นไปอย่างเชื่องช้า เช่นเดียวกับในรัฐสภาที่ยังคงมีสัดส่วนส.ส.หญิงน้อยมาก โดยในคณะรัฐมนตรีของนายอาเบะ ในปี พ.ศ. 2560 มีผู้หญิงอยู่ในคณะรัฐมนตรีเพียง 2 คน จาก 20 ตำแหน่งเท่านั้น

นางเซอิโกะ โนดะ อดีตรัฐมนตรีกิจการภายใน
นางเซอิโกะ โนดะ อดีตรัฐมนตรีกิจการภายใน
โทโมมิ อินาดะ กล่าวสุนทรพจน์ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม ในปี 2560
โทโมมิ อินาดะ กล่าวสุนทรพจน์ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม ในปี 2560

เซอิโกะ โนดะ และ โทโมมิ อินาดะ 2 นักการเมืองหญิงที่โดดเด่นในแวดวงการเมืองญี่ปุ่นในเวลานี้ เปิดใจว่าพวกเธอต่างมีความฝันที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี และทั้งคู่ต่างมีแนวคิดที่จะแก้ปัญหาเรื่องสังคมผู้สูงอายุ และแก้ปัญหาความท้าทายต่างๆ อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ต่างไม่เสนอตัวเข้าร่วมแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพี เนื่องจากเป็นการยากที่จะหาเสียงสนับสนุนจากการเมืองแบบเก่าที่ยังคงให้ผู้ชายเป็นใหญ่

โนดะ ยอมรับว่าเธอค่อนข้างประหลาดใจ และไม่ทันตั้งตัวที่นายอาเบะประกาศลาออกกะทันหันจากอาการป่วย เพราะเธอเตรียมความพร้อมที่จะลงแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในปีหน้า หลังจากนายอาเบะหมดวาระ และเธอคงไม่มีเสียงสนับสนุนมากพอที่จะเอาชนะนายซูกะได้

นางเซอิโกะ โนดะ ขณะถ่ายภาพหมู่ร่วมกับกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่น-จีน
นางเซอิโกะ โนดะ ขณะถ่ายภาพหมู่ร่วมกับกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่น-จีน

โนดะ อดีตรัฐมนตรีกิจการภายในได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วถึง 9 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2536 เป็นต้นมา และยังเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง ในจำนวนนั้นคือรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องการเพิ่มอำนาจให้แก่ผู้หญิง นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่นั่งในตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณของสภาล่างด้วย

ในขณะที่ อินาดะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม และรักษาการเลขาธิการพรรคแอลดีพี เคยถูกจับตาว่ามีโอกาสที่จะกลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น แต่เธอก็ต้องตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม เพื่อแสดงความรับผิดชอบ หลังตกเป็นข่าวฉาวว่ามีการปกปิดข้อมูล เกี่ยวกับภารกิจรักษาสันติภาพของยูเอ็น

หนึ่งในงานหินที่ทำให้ผู้หญิง ยากที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อปูทางไปสู่การเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากคนที่จะขึ้นมาเป็นตัวแทนได้ จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคในสภาทั้งสองของสภาไดเอต (Diet) หรือรัฐสภาญี่ปุ่น อย่างน้อย 20 คน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย โดยโนดะหวังว่าสักวันพรรคแอลดีพีจะนำเอาระบบการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยกว่านี้เข้ามาใช้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักการเมืองหญิงได้มีโอกาสออกเสียง เหมือนกับในสหรัฐฯ ที่ผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจะถูกเลือกโดยระบบป๊อปปูลาร์โหวต

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โนดะยอมยกธงขาว เพราะเมื่อปี พ.ศ. 2558 และ 2561 เธอก็ถอดใจไม่ลงแข่งขัน หลังจากที่ไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงสนับสนุนจากสภาไดเอตได้ครบ 20 เสียง เช่นเดียวกับ อินาดะ ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองน้อยกว่าโนดะ ก็ล้มเลิกความคิดที่จะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะไม่สามารถรวมเสียงสนับสนุนจากสภาไดเอตได้ครบจำนวนเช่นเดียวกัน

ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว
ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว

ที่ผ่านมามีเพียง ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวคนปัจจุบันเท่านั้น ที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ที่เคยลงแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพี เมื่อปี 2551 และถึงแม้ว่าเธอจะได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาของพรรคแอลดีพี 20 รายชื่อ ด้วยการหนุนของอดีตนายกรัฐมนตรี จุนอิจิโร่ โคอิซูมิ หนึ่งในนักการเมืองที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศ แต่เธอก็ยังพ่ายแพ้ในการแข่งขัน และไปได้ไกลที่สุด แค่เพียงอันดับ 3 จากผู้ชิงตำแหน่ง 5 คน

มิซาโกะ อิวาโมโตะ ศาสตราจารย์ด้านสิทธิมนุษยชนของมหาวิทยาลัยมิเอะ ผู้เชี่ยวชาญด้านเพศและการเมืองระบุว่า นักการเมืองหญิงคงไม่สามารถจะดันตัวเองขึ้นไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ ตราบใดที่พวกเธอไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งของพวกเธอได้ โดยจากข้อมูลที่ผ่านมา พบว่านักการเมืองหญิง ยากที่จะมีโอกาสหรือได้รับมอบหมายให้ตัดสินใจในประเด็นสำคัญ รวมทั้งการนั่งในตำแหน่งสำคัญของคณะรัฐมนตรีด้วย

เช่นเดียวกับโนดะ ที่เห็นว่าทุกวันนี้นักการเมืองหญิงยังคงเปรียบเหมือนเครื่องประดับในสภา และถูกพิจารณาให้เป็นเครื่องช่วยชีวิตของผู้ชาย ในยามที่นักการเมืองชายประสบปัญหาหรือเจอกับเรื่องอื้อฉาว จนต้องลาออก เพราะในช่วงเวลานั้นผู้หญิงจะถูกดันให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน แต่หากผู้ชายอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย ก็จะไม่มีที่ว่างเหลือพอสำหรับผู้หญิง เพราะแม้ นายอาเบะ จะใช้นโยบาย "Womenomics” เพื่อเพิ่มบทบาทของผู้หญิงในทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่ความพยายามเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้สภาไดเอตคาดหวังให้ผู้หญิงขึ้นมามีอำนาจเหนือพวกเขา

ในรายงานที่ถูกตีพิมพ์โดยสหภาพรัฐสภา เมื่อเดือนมีนาคมปี 2562 ระบุว่า ญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 165 จาก 193 ประเทศ ในเรื่องของสมดุลทางเพศของสมาชิกรัฐสภา โดยมีจำนวนนักการเมืองหญิงในสภาล่างคิดเป็น 10.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศอุตสาหกรรมที่มีนักการเมืองหญิงจำนวนน้อยที่สุดในโลก

ขณะที่รายงานดัชนีช่องว่างระหว่างเพศที่ตีพิมพ์โดยสภาเศรษฐกิจโลกเมื่อปี 2562 พบว่าญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 121 ต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศ จี 7 โดยสัดส่วนผู้หญิงทางการเมืองของญี่ปุ่นตกไปอยู่ในอันดับที่ 144 ขณะที่ช่องว่างของค่าจ้างระหว่างชายและหญิงในญี่ปุ่นถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลขที่มากที่สุดในหมู่ประเทศพัฒนาแล้ว

แม้เส้นทางความก้าวหน้าของนักการเมืองหญิงในญี่ปุ่นจะดูริบหรี่ แต่ นางสาวอินาดะ ยังคงมีความหวังว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายซูกะ จะส่งเสริมให้ผู้หญิงได้มีส่วนสำคัญในหลายภาคส่วนต่อไป

ขณะที่ นางโนดะ หวังว่า สักวันผู้หญิงจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เพื่อเป็นการปูทางและสร้างแรงบันดาลใจให้นักการเมืองหญิงในญี่ปุ่นได้มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศในสักวัน.

ผู้เขียน : อาจุมม่าโอปอล

ที่มา : เจแปนไทมส์ , นิปปงดอทคอม , นิวยอร์กไทมส์

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)


September 23, 2020 at 08:00AM
https://ift.tt/33RQber

โอกาสนักการเมืองหญิง ภายใต้การนำของนายซูกะ - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2XKd8gI
Home To Blog

No comments:

Post a Comment