ราคาหุ้น AP กระโดดตามกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รับมติ ค.ร.ม. "ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" แม้ประเด็นนี้จะเข้ามาหนุนได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่เมื่อบวกกับประเด็นอื่นอย่างราคาหุ้นที่ยัง Laggard สวนทางกับยอดขายที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 2/63 หดตัวน้อยกว่ากลุ่ม ก็ยิ่งทำให้ AP น่าสนใจ!
*** ราคาหุ้นวิ่งรับประเด็นลดภาษีที่ดิน แต่ยัง Laggard กลุ่มอื่น
นอกจากหุ้นกลุ่มธนาคารแล้ว "หุ้นอสังหาริมทรัพย์" ก็เป็นอีกกลุ่มที่ฟื้นตัวขึ้นมาช้ากว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ(Laggard) ดังนั้นหุ้นอสังหาฯ จึงเป็นตัวเลือกที่นักลงทุนเก็งกำไรกันอยู่ในขณะนี้ ยิ่งได้รับประเด็นบวกจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 2 มิ.ย.63 ที่มีมติเห็นชอบให้ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับปีภาษี พ.ศ. 2563 ลง 90 ก็ยิ่งทำให้ราคาหุ้นพุ่งแรงขึ้นไปอีก
โดยที่ราคาหุ้น บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP วันนี้ ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบเช้าที่ 5.80 บาท ทำนิวไฮรอบ 3 เดือน ก่อนที่จะปิดตลาดย่อตัวลงมาเล็กน้อยที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +4.59%
แม้ราคาหุ้นจะทำนิวไฮรอบ 3 เดือน แต่หากเทียบกับกลุ่มอื่นๆ ในขณะนี้ก็ถือว่าฟื้นตัวช้ากว่ามาก เพราะหุ้นกลุ่มอื่นส่วนใหญ่ราคาจะฟื้นทำนิวไฮรอบ 4 เดือนไปแล้ว (ซึ่งหมายความว่าส่วนใหญ่ราคาหุ้นขึ้นไปสูงกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19แล้วนั่นเอง)
*** ช้าก่อน! ประเด็นลดภาษี หนุนหุ้นได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น
หากนักลงทุนจะเก็งกำไรหุ้น AP เฉพาะประเด็นนี้ อาจต้องคิดให้รอบคอบก่อนเพราะจะส่งผลต่อพื้นฐานของหุ้นเพียงแค่ปี 63 เท่านั้น
บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า การลดภาษีที่ดินดังจะส่งผลบวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพียงระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากเป็นมาตรการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ดังนั้นราคาหุ้นอาจจะบวกสะท้อนข่าวดีแค่ชั่วคราว
และเนื่องจากการลดภาษี 90% นี้มีผลบังคับใช้เพียงปี 2563 เพียงปีเดียว ดังนั้นเราคาดว่าจะเห็นผลบวกจากการลดภาษีที่ดินในครั้งนี้ไม่มาก แต่หากมีการยืดระยะเวลาของมาตรการไปอีก 1-2 ปี คาดว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายโครงการได้มาก และยังคงมองว่ามาตรการ LTV ยังเป็นมาตรการหลักที่กดดันการฟื้นตัวของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และหากมีการผ่อนปรนหรือยกเลิกมาตรการ LTV จะสามารถช่วยสนับสนุนยอดขายและการฟื้นตัวของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างแข็งแกร่ง
เรายังคงเลือก AP เป็นเป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick ของกลุ่ม จากการที่มีฐานลูกค้าบ้านแนวราบอยู่มากกว่าคอนโด และยังมีระดับ Dividend Yield ที่น่าสนใจ 7.6%
*** ขณะที่พื้นฐานด้านอื่นยังแจ่ม ดันกำไรโตสวนกลุ่ม
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า AP สามารถทำยอดขายในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.63 ไปได้แล้วถึง 6.25 พันล้านบาท มากกว่าไตรมาสแรกทั้งไตรมาสที่ทำได้ 6 พันล้านบาทไปแล้ว ซึ่งสะท้อนว่ากำลังซื้อได้เริ่มกลับมาหลังโควิด-19 คลี่คลายลง และด้วยยอดขายที่ดีทำให้แนวโน้มกำไรสุทธิของ AP ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสแรก ถือว่าฟื้นตัวเร็วกว่ากลุ่มเดียวกันที่คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 จะหดตัวหนัก
โดยมียอดขายโครงการ Low-rise สูงถึง 5.25 พันล้านบาท สะท้อนความสำเร็จของโครงการใหม่ที่เปิดตอบรับดี ในขณะที่โครงการเดิมก็ขายดี แม้จะมีการใช้โปรโมชั่นด้านราคาอยู่บ้าง
ขณะที่ยอดขายคอนโดอยู่ที่ 1 พันล้านบาท ซึ่งทั้งหมดหมดมาจากการระบายสินค้าในสต็อก อย่างไรก็ตามตัวกระตุ้นการระบายสต็อกมาจากโปรโมชั่นด้านราคา และการเพิ่มช่องทางการขายผ่าน Line@ รวมถึงจัด big campaign รวมในหลายโครงการพร้อมกัน
ดังนั้นคาดยอดขาย 5 เดือนจะอยู่ที่ 1.23 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 37% จากเป้าที่ 3.35 หมื่นล้านบาท ถึงแม้ยอดขายคอนโดจะทำได้ต่ำเป้าเพราะไม่เปิดโครงการใหม่ แต่ Low-Rise ยังโต +4% YoY และ Momentum ยังดี น่าจะเป็นตัวหนุนกำไรสุทธิปี 63
ขณะที่ บล.กรุงศรี ประเมินกำไรสุทธิ AP ปีนี้ไว้ที่ 3,334 ล้านบาท โต 8.7% YoY เนื่องจากยอดขายที่ดีทำให้มียอดรอโอนโครงการ(Backlog)มากที่สุดในกลุ่ม ซึ่งสวนทางกับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ในกลุ่มที่กำไรสุทธิน่าจะหดตัวแรงในปีนี้
*** กูรูมองปันผลปีนี้สูงมาก
จากการรวบรวมประมาณการอัตราเงินปันผลของ AP ตามผลประกอบการในปี 63 พบว่านักวิเคราะห์ให้ไว้สูงมากที่ 6.4 - 9.3% ดังนี้
บล. |
อัตราเงินปันผลปี 63 |
ดีบีเอส วิคเคอร์ส |
6.4% |
ฟิลลิป |
7% |
เอเชีย เวลท์ |
7.4% |
ทรีนีตี้ |
7.6% |
หยวนต้า |
9.3% |
*** ในแง่ราคาอาจต้องรอย่อตัวบ้าง! เพราเป็นเป้าหมายถูกเก็งกำไร
การที่ราคาหุ้น AP ฟื้นช้ากว่ากลุ่มยิ่งทำให้นักลงทุนหันมาเก็งกำไรกันมากขึ้น โดยเฉพาะราคาหุ้นวันนี้ที่กระโดดบวกแรงมาก จึงอาจทำให้อัพไซด์เหลือน้อยหากเทียบกับราคาเหมาะสมของนักวิเคราะห์ ดังนี้
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม |
ยูโอบี เคย์เฮียน |
ซื้อ |
5.50 |
กสิกรไทย |
ซื้อ |
6 |
ฟินันเซีย ไซรัส |
ซื้อ |
6.20 |
ทรีนีตี้ |
ซื้อ |
6.30 |
โนมูระ พัฒนสิน |
ซื้อ |
6.35 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
6.55 |
กรุงศรี |
ซื้อ |
8.50 |
แม้ AP จะถูกโควิด-19 กดดัน แต่ก็ยังสามารถทำยอดขายได้อย่างน่าประทับใจและฟื้นตัวได้เร็วกว่ากลุ่มที่ยังหดตัวหนักในไตรมาส 2/63 ขณะที่อัตราปันผลก็สูงจนน่าสนใจ ราคาหุ้นจึงถูกเก็งกำไรจนระดับราคาเริ่มสูงหากเทียบกับราคาเหมาะสมของนักวิเคราะห์ ขณะที่ LTV ยังเป็นประเด็นหลักที่กดดันหุ้นกลุ่มนี้อยู่ ดังนั้นการจับตาดูจนกว่าราคาหุ้นจะย่อตัวก็อาจเป็นจังหวะที่ดีกว่า !
No comments:
Post a Comment