Pages

Saturday, August 1, 2020

SCCC คุมต้นทุนได้ดี! - ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

milanokabar.blogspot.com

คุณค่าบริษัท

ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดมาตรการเคอร์ฟิวแต่ละประเทศมีระดับความเข้มงวดที่แตกต่างกัน ส่งผลกระทบต่อความต้องการปูนซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับปูซีเมนต์ชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC ที่ยอดขายชะลอตัวลง

ถึงกระนั้น ทาง SCCC กลับมีกลยุทธ์ฝ่าฟันวิกฤติ โดยการลดต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพภายในเป็นปัจจัยหลักที่ลดผลกระทบจากแรงกดดันด้านรายได้และทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น

ดูรายละเอียด โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทมีรายได้รวมลดลงเหลือ 10,243.59 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 11,980.57 ล้านบาท เหตุจากการหยุดชะงักของธุรกิจเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้กิจกรรมการก่อสร้างและความต้องการปูนซีเมนต์ในภูมิภาคชะลอตัวลงและส่งผลให้รายได้สุทธิของกลุ่มบริษัทลดลง

อย่างไรก็ดี SCCC กลับสามารถทำกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,024.18 ล้านบาท หรือ 3.44 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 637.32 ล้านบาท หรือ 2.14 บาทต่อหุ้น เนื่องจากได้ดำเนินการลดต้นทุนในด้านต่าง ๆ รวมถึงการปรับปรุงการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดเพื่อให้กลุ่มบริษัทยังคงสามารถสร้างผลกำไรในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวนอย่างรุนแรง โดยได้ดำเนินการปรับปรุงการบริหารจัดการโรงงานเพื่อลดการชำรุดและซ่อมแซมเครื่องจักรนอกแผนงานและทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงลดลงอย่างมีประสิทธิผล นอกจากนี้จากการที่แนวโน้มราคาพลังงานลดลงได้ส่งผลดีต่อกลุ่มบริษัท โดยต้นทุนในการผลิตและต้นทุนในการจัดจำหน่ายลดลง ในขณะที่ต้นทุนในการดำเนินงานคงที่ ได้รับการพิจารณาและปรับลดลงให้สอดคล้องกับสภาวะการของธุรกิจ

นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทมีรายได้รวมลดลงเหลือ 21,330.14 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 24,044.06 ล้านบาท ขณะที่ด้านกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,849.89 ล้านบาท หรือ 6.21 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,742.09 ล้านบาท หรือ 5.85 บาทต่อหุ้น ภาพรวมหลังจากประสิทธิภาพของการควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการที่เหลือ ทาง บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินว่า Covid-19 ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในวงกว้าง และรุนแรง โดยในครึ่งปีหลังทาง SCCC จะมีการปิดซ่อมบำรุงเตา 2 เตา จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 200 ล้านบาท บวกกับเป็นช่วงโลซีซั่น จะทำให้กำไรครึ่งปีหลังชะลอตัว กำไรครึ่งปีแรกมีสัดส่วนสูงถึง 62% ของประมาณการทั้งปี ทำให้ประมาณการมีอัพไซด์

โดยคงประมาณการแบบอนุรักษนิยม คาดปี 2563 จะมียอดขาย 42,834 ล้านบาท ลดลง 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไร 2,979 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ปี 2562 มีค่าใช้จ่ายพิเศษสูงถึง 500-700 ล้านบาท

ขณะที่ ราคาหุ้น SCCC แม้ว่าจะปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดกลางเดือน มี.ค. 38% แต่ยังปรับลดลง 26% จากต้นปีถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน Valuation ที่น่าสนใจคือ P/E 14 เท่า, EV/EBITDA 8.9 เท่า, P/BV 1.3 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทน 5.6% คงแนะนำ “ซื้อลงทุน” ประเมินราคาเป้าหมายปี 2563 เท่ากับ 180 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ซันไรส์ อีคิวตี้ จำกัด 106,612,288 หุ้น 35.78%
  2. JARDINE CYCLE & CARRIAGE LIMITED 76,107,368 หุ้น 25.54%
  3. บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด 28,091,034 หุ้น 9.43%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 4,293,363 หุ้น 1.44%
  5. กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) 2,920,399 หุ้น 0.98%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายพอล ไฮน์ ฮูเกนโทเบลอร์ ประธานกรรมการ
  2. นายศิวะ มหาสันทนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  3. นายเอเดน จอห์น ไลนัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม, กรรมการ
  4. นายวันชัย โตสมบุญ กรรมการ
  5. น.ส.นพพร ติรวัฒนกุล กรรมการ

Let's block ads! (Why?)


August 02, 2020 at 06:00AM
https://ift.tt/2Phqz40

SCCC คุมต้นทุนได้ดี! - ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์
https://ift.tt/2XKd8gI
Home To Blog

No comments:

Post a Comment