หุ้นเด่นวันนี้
15 กรกฎาคม 2563 | 09:28
ราคาหุ้น บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC เปิดตลาดวันทำการล่าสุด(14ก.ค.63) พุ่งขึ้นไปเฉียดซิลลิ่ง(Ceiling)ตั้งแต่การซื้อขายช่วงเช้า ก่อนที่ปิดตลาดไปที่ระดับซิลลิ่ง 11.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +15% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น +580.20% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า นอกจากนี้ยังเป็นการทำนิวไฮในรอบ 1 ปี 4 เดือนอีกด้วย
อย่างไรก็ดีราคาหุ้น SMPC เพิ่งจะดีดขึ้นแรงเมื่อ 3 วันทำการที่ผ่านมา โดยเริ่มตั้งแต่ 9 ก.ค.63 ซึ่งราคาหุ้นปิดตลาดไปที่ 8.70 บาท หากเทียบกับราคาปิดล่าสุดเท่ากับว่าเพิ่มขึ้นมาแล้วถึง +32.18% ด้วยกัน แม้ตัวเลขนี้อาจทำให้นักลงทุนดูเหมือนว่า "ตกรถไปแล้ว" แต่ก็ควรจะมาดูสาเหตุที่ทำให้หุ้นขึ้นแรงก่อนดีกว่า...
นางปัทมา เล้าวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ SMPC เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า บริษัทยังมั่นใจว่าจะทำยอดขายถังแก๊สปิโตรเลียมเหลวสำหรับบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในปี 63 ได้ที่ 7.3 ล้านถัง โต 30% ตามเป้าหมาย เนื่องจากพบว่ายังคงมีความต้องการใช้ถัง LPG อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศแอฟริกา อเมริกาเหนือ รวมถึงในเอเชีย นอกจากนี้บริษัทยังได้เริ่มกระจายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มประเทศละตินอเมริกาเพิ่มเติมแล้วด้วย
นอกจากนี้การดำเนินธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือการล็อกดาวน์ของแต่ละประเทศ ประกอบกับเงินบาทไม่แข็งค่าเหมือนกับในปีก่อน รวมถึงราคาต้นทุนเหล็กยังทรงตัวระดับต่ำ ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการของบริษัทออกมาดีมากในไตรมาส 2/63 ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงด้วย
ขณะเดียวกันจะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับ 10-15% ถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะมีทิศทางที่แข็งค่า โดยบริษัทมีการบริหารและควบคุมการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนประกอบกับพยายามควบคุมต้นทุนด้านกระบวนการผลิต
รวมถึงการที่ราคาเหล็กซึ่งเป็นต้นทุนของบริษัทขณะนี้อยู่ที่ระดับ 400-500 เหรียญต่อตัน ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำ
จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่าเงินบาทที่อ่อนค่าก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุน SMPC ที่มีรายได้จากการส่งออกไปต่างประเทศ โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องมาตั้งแต่ 29 มิ.ย.63 ที่ระดับ 30.89 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ มาแตะระดับสูงสุด 31.61 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯไปเมื่อ 15.15 น.ของวันทำการล่าสุดที่ผ่านมา
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ ระบุว่า กำไรสุทธิของ SMPC ในปีนี้จะเติบโต 32% ด้วยกัน ขณะที่ปี 64 จะเติบโตต่ออีก 15% แม้จะใช้สมมติฐานแบบอนุรักษ์นิยม คือ 1.ปริมาณยอดขายถังแก๊สในปี 63 - 64 จะอยู่ที่ 6.7 - 7.5 ล้านถัง คิดเป็นอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 67% และ 75% ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าเป้าปริมาณยอดขายของบริษัทที่ตั้งไว้ที่ 7.3 - 8.4 ล้านถังตามลำดับ และอัตรากำไรขั้นต้นในปี 63 - 64 จะอยู่ที่ 21% ซึ่งค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบในอดีตที่ 21.2 - 28.6% ระหว่างปี 57 - 61
แนะนำ "ซื้อ" และให้ราคาเหมาะสมปี 64 ไว้ที่ 15 บาท ยังเหลืออัพไซด์จากราคาปิดอีกมาก โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาเหมาะสมสูงคือ กำไรที่เติบโตสูงในปี 63 - 64 เราจึงให้ Permium PER ที่ 14 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีต +1.0 S.D.) คิดเป็น PEG ที่ 1.0 เท่า (อิงจาก EPS ปี 64)
นางปัทมา เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" เพิ่มเติมว่า การลงทุนสร้างโรงงานผลิตถังแก๊สในต่างประเทศ ขนาดกำลังการผลิต 2.5 ล้านถังต่อปี ภายใน 5 ปี คาดจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 64 เป็นต้นไป มูลค่าการลงทุน 13 - 15 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้ได้ข้อสรุปของการตั้งโรงงานดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะช่วยให้บริษัทลดต้นทุนด้านการขนส่งสินค้า และลดค่าใช้จ่ายทางภาษีด้านต่างๆ
นอกจากนี้ บริษัทพบว่าขณะนี้มีหลายประเทศให้ความสนใจในการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) และบริษัทมีความสามารถในการผลิตถังเพื่อรองรับ LNG ด้วย แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นบริษัทจะรอดูภาวะตลาด และความต้องการใช้ก๊าซดังกล่าวให้มากกว่านี้ จึงจะสามารถเริ่มลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อได้
ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ
RECOMMENDED NEWS
Let's block ads! (Why?)
No comments:
Post a Comment