Pages

Wednesday, September 16, 2020

ชีวิตที่ต้องเลือก - ไทยรัฐ

milanokabar.blogspot.com

เรียกได้ว่า น่าจะจบดราม่าชีวิตลูกหนังเปื้อนฝุ่น ที่ล้มลุกคลุกคลานตลอด 7 ปีเต็มเสียที สำหรับ แกเร็ธ เบล ที่กำลังจะได้ย้ายออกจากซานติอาโก เบอร์นาเบว เพื่อย้ายกลับมาฟื้นฟูความมั่นใจอีกครั้ง บนแผ่นดินอังกฤษที่เขาเคยสร้างชื่อ

ผมยังจำได้ดี สมัยที่แข้งดังชาวเวลส์ยังเป็นดาวรุ่งในถิ่นเซนต์ แมรีส์ ของ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน เบล คือหนึ่งในดาวรุ่งเนื้อหอม ที่บรรดากุนซือจอมปั้นอยากได้ตัวไปร่วมทัพ

แน่นอนว่าชื่อของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ อาร์แซน เวนเกอร์ ต่างเข้ามามีเอี่ยวและเกี่ยวพันอย่างหลีกเสี่ยงไม่ได้

แต่สุดท้ายกลายเป็น มาร์ติน โยล กุนซือใหญ่สเปอร์สในขณะนั้น ที่สมหวังคว้าดาวรุ่งแก้มแดง มาเป็นลูกทีมด้วยค่าตัวสุดจิ๊บจ๊อยเพียง 5 ล้านปอนด์เท่านั้น

หลังย้ายมาสวมยูนิฟอร์มสีขาว ในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน ฟอร์มของ เจ้าหนูเบลก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนมีข่าวกับหลายสโมสร รวมถึงขาใหญ่ของวงการอย่างปิศาจแดง ที่ตกเป็นข่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง

กระทั่งในท้ายที่สุด ดาเนียล เลวี ก็ไม่สามารถต้านทานพลังเงินของ เรอัล มาดริด ในขณะนั้นได้ ต้องขาย แกเร็ธ เบล ไปด้วยราคาที่ยังเป็นปริศนา

เพราะสื่อของสเปนรวมถึง เรอัล มาดริด ทีวี บอกว่า ราชันชุดขาวจ่ายไป 77 ล้านปอนด์ (91 ล้านยูโร)

ขณะที่สื่อในฝั่งอังกฤษเผยว่า ราชันชุดขาวใช้งบในการปิดดีลครั้งนี้ไป 85.3 ล้านปอนด์ หรือราว 100 ล้านยูโร ขึ้นแท่นเป็นสถิติโลกในขณะนั้นด้วยเช่นกัน

ดูเหมือนว่าด้วยค่าตัวที่แสนแพง ความกดดันก็ยังสูงเป็นตามตัวอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ เบล ก็ตอบแทนทีมได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ พาทีมเก็บแชมป์อย่างเป็นกอบเป็นกำ

แต่คนเราบางที "ขึ้นสุดก็ลงสุด" แบบไม่ทันตั้งตัว กราฟชีวิตของ เบล ในถิ่นซานติอาโก เบอร์นาเบว ต้องเริ่มดำดิ่งลงทันที หลังจากที่เจ้าตัวไม่ใช้ “ลูกรัก” ของกุนซือบางราย ซึ่งในที่นี่ขอละชื่อกุนซือที่เอ่ยถึงไว้ในฐานที่เข้าใจ โดยไม่ขอเจาะจงว่าเป็นใคร เพราะเรื่องนี้มันไม่มีผิดไม่มีถูก

บางทีสิ่งที่โค้ชเห็นทั่งในสนามซ้อม และชีวิตประจำวัน รวมถึงฟอร์มบนสนามแข่งขัน อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่ชอบ เบล ก็ได้ ขณะที่แฟนบอลรอบนอกอย่างเราๆ อาจจะเห็นต่างจากกุนซือคนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะมีการรับรู้ต่างกัน

กลับเข้ามาที่เรื่องของ แกเร็ธ เบล อีกครั้ง แน่นอนว่าการไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง ย่อมทำให้เจ้าตัวคิดย้ายทีมอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เหตุใดที่ทำให้เขา เริ่มงอแง ทำตัวน่าหงุดหงิด จนกลายเป็นเป้านิ่งให้แฟนบอลมาดริดไล่โห่ได้ล่ะ?

สันนิษฐานกันว่า น่าจะเป็นเพราะใครบางคน ขวางทางการย้ายของเจ้าตัว ทั้งที่ก็เห็นอยู่ว่า เบล เริ่มไม่มีความสุข แต่อีกใจก็ไม่อยากปล่อยให้ทีมอื่นไป

บางทีก่อนหน้าราว 2 ปีก่อน ถ้ายอมปล่อย เบล ให้ทีมดังในพรีเมียร์ลีกที่เป็นข่าว อาจจะได้กำไรซะด้วยซ้ำ 

นี่ยังไม่รวมการขวาง เบล ย้ายไปโกยเงินในลีกแดนมังกรอีก ก็น่าจะเป็นเหตุสะสมให้แข้งดังวัย 31 ปี เกิดอาการเบื่อโลก จนต้องหันหน้าไปบำบัดชีวิต และแสวงหาความสุขที่เหลือในสนามกอล์ฟ

ที่นี่พออาการของ “โปรเบล” เริ่มงอนหนักเข้า คิดจะเขี่ยทิ้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว เพราะเจ้าตัวออกอาการ “ดื้อเงียบ”

ถึงแม้ เบล และเอเย่นต์ส่วนตัวอย่าง โจนาธาน บาร์เน็ตต์ จะแท็กทีมออกมาบอกว่า ยังแฮปปี้ดี แม้จะไม่ได้ลงเล่น และพร้อมอยู่กับทีมต่อไปจนครบสัญญาในปี 2 ปีข้างหน้า แต่ถามจริงๆ ว่าใครจะเชื่อ?

ดังนั้นการปล่อยยืมตัว โดยที่เรอัล มาดริด ยอมจ่ายค่าเหนื่อยให้ครึ่งหนึ่ง บางคนอาจจะบอกว่า “มาดริดบ้าหรือเปล่า” ไม่ได้ใช้งานแต่ยังยอมจ่ายเงินให้นักเตะแบบฟรีๆ แบบนี้มีเงินอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้อง “รวย” ด้วย (ฮา)

แต่เอาจริงๆ คิดกันแบบง่ายๆ นี่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ เรอัล มาดริด เจ็บน้อยที่สุดแล้ว

เพราะถ้าว่ากันตามข่าว ถ้า เบล ยังอยู่ต่อในซีซั่น 2020-21 จะลงหรือไม่ลง เบล ก็ยังได้เนื้อๆ สัปดาห์ละ 600,000 ปอนด์คนเดียวไม่มีแบ่ง

แต่ถ้าปล่อย เบล ออกไปจากทีม และต้องจ่ายค่าแรงแค่ครึ่งเดียว มาดริดยังเหลือเงินอีกตั้ง 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เพื่อมาจ่ายให้กับแข้งใหม่ ที่ทั้งหนุ่มและสดกว่า ได้อีก 1-2 คนเป็นอย่างน้อย ฉะนั้นไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่า ฟลอเรนติโน เปเรซ จะเลือกข้อไหน 

ดังนั้น การปล่อย เบล ในตอนนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว ทั้งกับตัวนักเตะและสโมสร เพราะถ้ายังทนฝืนอยู่กันไป บอกได้คำเดียวว่า “มีแต่เสียกับเสีย” ทั้งสองฝ่าย.

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)


September 17, 2020 at 06:09AM
https://ift.tt/33ELd4R

ชีวิตที่ต้องเลือก - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2XKd8gI
Home To Blog

No comments:

Post a Comment